วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2563

รีวิว ทำบ่อปลาแบบบ้านๆ ใช้งบไปไม่ถึง2,000บาท

รีวิว ทำบ่อปลาแบบบ้านๆ ใช้งบไปไม่ถึง2,000บาท

สวัสดีครับ วันนี้เราก็มีไอเดียแต่งบ้านจัดสวนสวยๆ มาให้เพื่อนๆ   ได้รับชมกันอีกเช่นเคย วันนี้ก็เป็นไอเดียจากคุณ Benny Wongyai ที่ได้มาแชร์ในกลุ่มอวดสวนโชว์บ้านสวย ซึ่งเป็นไอเดียในการทำบ่อปลาแบบบ้าน ๆ ประหยัดงบ ตามความฝันอยากมีบ่อปลามุมจิบกาแฟที่บ้าน ซึ่งขอบอกว่าทำเสร็จแล้วสวยเกินงบไปเยอะเลย 


ผลงาน & รูปภาพ : Benny Wongyai
เรียบเรียง : iHome108

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน ก็เคยคิดที่อยากจะมีบ่อปลาไว้ติดบ้านกันสักบ่อ แต่เมื่อเราไปดูราคาสำหรับสร้างบ่อปลาสักบ่ออาจจะเหงื่อตกและพักโครงการเอาไว้ก่อน ^^ แต่สำหรับคุณ Benny อุปสรรค์ไม่สามารถหยุดยั้งความฝันที่อยากมีบ่อปลาไว้ได้ จึงเริ่มลงมือจัดการสร้างขึ้นมาเองซะเลย

เริ่มจากเตรียมพื้นที่ เพื่อทำการขุดบ่อ

เมื่อได้พื้นที่ ที่ต้องการแล้ว ก็ทำการขุด>>โดยใช้จอบและเสียม หนักเอาการ



แล้วก็ขุด ขุด ขั้นตอนนี้จะเหนื่อยหน่อยเพราะใช้แรงขุดเอง
ได้ลึกตามที่เราพอใจ ก็ใช้พลาสติกปูเพื่อกันน้ำรั่ว1ชั้น

จากนั้นก็เข้าสู่การเก็บหินในป่าเขา ซึ่งเป็นไร่สำหรับทำการเพาะปลูก แต่ก่อนเก็บก็ต้องทำการขอ ขมาเจ้าที่เจ้าทางกันก่อน





ผสมปูนเสร็จก็ก่อหินขึ้นรอบ
ๆอ่าง



ก่อหินจนกว่าจะได้ตามที่เรา
ต้องการ

ทำการฉาบปูนทับอีกรอบ ฉาบทั้งด้านข้างและพื้นบ่อ>>
(ใช้ปูนแบบผสมกับน้ำยากันซึม)



ฉาบทิ้งไว้ประมาณ1อาทิตย์จนแห้ง ก็ทดสอบเอาน้ำใส่บ่อได้ เล๊ย  

แช่น้ำประมาณ 15 วันก็นำปลามาใส่บ่อ



 ในที่สุดก็มีมุม จิบกาแฟในตอนเช้าชิวๆแล้ว

มุมมองของบ่อปลายามเย็น

รายละเอียดงบที่ใช้
1. ปูนซีเมนต์40โลราคากระสอบละ120×4ถุง =480บาท
2. น้ำยากันซึม 1 แกลอนราคา 250บาท
3. ผ้ายางเมตรละ55บาทหน้ากว้าง4เมตร ใช้ทั้งหมด6เมตรx55=330บาท
4.อุปกรณ์ต่อท่อน้ำทั้งหมด กาว 1กระป๋อง15บาท
วาวล์2ตัว80บาท ท่อ1เส้น40 เกลียวนอกเกลียวในอย่างละ2ตัว20บาท ข้อต่อข้องอ4ตัว20บาท รวมราคาอุปกรณ์ทำท่อ=175บาท
5 ปั้มน้ำแบบแช่ 650บาท
…….รวมราคาทำบ่อปลาทั้งหมด 1,915บาท….
รายละเอียดอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ
1.หิน หาเก็บตามป่าเขา บ้านอยู่ในชนบทเลยหาเก็บได้ง่ายค่ะ
2.ถังกรอง ใช้ที่มีอยู่แล้วที่บ้าน
3.ปลา เอามาจากในท่อซีเมนต์ที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
นอกนั้นสัพเพเหระ หาเอาที่มีอยู่ในบ้านค่ะ

ไอเดียทำบ่อปลาสวย ๆ จากคุณ Benny 
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก https://ihome108.com/

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เด็ก ม.6 เปลี่ยนใบสับปะรดไร้ค่า ให้มีราคาเพิ่ม 20 เท่า จนตอนนี้กลายเป็นที่โด่งดัง

เด็ก ม.6 เปลี่ยนใบสับปะรดไร้ค่า ให้มีราคาเพิ่ม 20 เท่า จนตอนนี้กลายเป็นที่โด่งดัง

ปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่เป็นที่น่ายินดีว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาเอาใจใส่ดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งคือการนำเอาวัสดุหรือวัตถุดิบที่ไม่ใช้แล้วมาแปรรูปเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะเหล่านั้นแล้ว ยังได้สิ่งของมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกด้วย

เพิ่มมูลค่ากระดาษใยสับปะรด

คุณพลพงษ์ ตันติพิพัฒน์พงศ์ หรือ น้องมัช นักเรียนเกรด 12 จากโรงเรียนนานาชาติ NIST กรุงเทพฯ เป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติ จึงได้นำใบสับปะรดมาแปรรูปเป็นกระดาษจากใยสับปะรด ในโครงการ Ever leaves โดยนำมาใส่ไอเดียเก๋ไก๋ ผลิตเป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ กระเป๋าใส่บัตร และที่พันหูฟัง ของใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิตอลได้อย่างดี



สินค้าที่แปรรูปมาจากใยสับปะรดนี้ นอกจากจะมีความทนทานแล้ว ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าของเกษตรกรให้มีราคาสูงมากกว่า 20 เท่า

คุณสมใจ บุญใส สมาชิกกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เดิมทางกลุ่มนำกระดาษจากใยสับปะรดมาผลิตเป็นที่ใส่ไม้จิ้มฟัน กล่องกระดาษทิชชู และสินค้าอื่นๆ แต่ขายได้ในราคาไม่แพง ถ้าไม่แปรรูปแล้วกระดาษใยสับปะรดจะขายได้น้อย ไม่ได้ราคาดี ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่า ราคาสับปะรดเองก็ถูกมาก ยิ่งปี 2561 นี้ ราคาตกต่ำสุดในรอบ 11 ปี ทำให้เกษตรกรมีรายได้น้อยลง พอมีโครงการ Ever leaves ของน้องมัช มาช่วยให้คำแนะนำ เสนอเสริมไอเดียว่าควรจะนำกระดาษจากใยสับปะรดไปทำเป็นผลิตภัณฑ์แบบไหนที่ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ได้ราคาสูงมากขึ้น และได้ขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มอื่น ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น



น้องมัชเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของโครงการ Ever leaves ว่ามีความสนใจและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด และเห็นว่าในแต่ละปีหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตของสับปะรด มีส่วนอื่นๆ ที่เหลือใช้ ซึ่งเกษตรกรนำไปขายเป็นปุ๋ยหรือเชื้อเพลิงในโรงงานปั่นไฟ ได้ราคาเพียง 50 บาท ต่อใบสับปะรด 100 กิโลกรัม ถือว่าเป็นเงินจำนวนที่น้อยมาก

อีกทั้งกลุ่มเกษตรกรบางกลุ่มที่นำใบสับปะรดมาแปรรูปเป็นกระดาษ ซึ่งใบสับปะรด 30 กิโลกรัม จะได้ใยสับปะรด 15 กิโลกรัม ผลิตกระดาษจากใยสับปะรดได้ 60 แผ่น ขายได้ในราคาแผ่นละ 10 บาท นอกจากนี้ เกษตรกรยังนำกระดาษจากใยสับปะรดมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก



ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ด้วยความคิดที่ว่านี้ น้องมัชจึงได้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Ever leaves ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือแนะนำพี่ๆ ป้าๆ ลุงๆ เกษตรกรไร่สับปะรด ในการปรับปรุงพัฒนาการผลิตกระดาษจากใยสับปะรดให้มีคุณภาพที่ดี มีความคงทนสวยงามมากขึ้น และที่สำคัญคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย มีรูปแบบการใช้งานที่ตอบโจทย์ Lifestyle ของคนยุคดิจิตอลมากยิ่งขึ้น เช่น ทำเป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ ใส่มือถือ เงิน หรือเครื่องเขียน กระเป๋าใส่บัตร และที่พันหูฟัง ซึ่งถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยขายได้มากกว่า 20 เท่าจากราคากระดาษจากใยสับปะรด

สินค้าที่ผลิตจากกระดาษใยสับปะรดของโครงการ Ever leaves ตอนนี้มีอยู่ 3 ชนิด คือ 1. กระเป๋าอเนกประสงค์ ใส่มือถือ เงิน หรือเครื่องเขียน ราคา 359 บาท 2. กระเป๋าใส่บัตร ราคา 259 บาท และ 3. ที่พันหูฟัง ราคา 159 บาท สินค้าทั้ง 3 ชนิด ได้เสริมวัสดุด้านใน ตัดเย็บอย่างดี มีความทนทาน กันน้ำ และผลิตจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้สนใจสามารถชมสินค้าเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ https://www.everleaves.org




น้องมัชแจกแจงว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รูปแบบทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานกับเครื่องมืออุปกรณ์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นวัยรุ่นที่นิยมสินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งานอุปกรณ์ที่ทันสมัย และกลุ่มนักท่องเที่ยว

สินค้าทั้ง 3 ชนิด มีจุดเด่นและได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งหมด เนื่องจากมีการทำวิจัยด้านการตลาดถึงลักษณะการใช้งานของกลุ่มลูกค้า ซึ่งถือว่าสามารถตอบโจทย์ได้อย่างน่าพอใจ

กับคำถามที่ว่าในท้องตลาดมีคู่แข่งหรือไม่ น้องมัชอธิบายว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบทันสมัยที่ทำจากกระดาษใยสับปะรด ยังไม่มีคู่แข่งรายอื่นทำ แต่จะมีสินค้าที่มีอรรถประโยชน์ในการใส่อุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกันที่ทำจากวัสดุอื่น ซึ่งมีราคาแตกต่างกันไป

ในการแปรรูปใบสับปะรดเพื่อนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ น้องมัชบอกว่า ใช้เงินลงทุนไปประมาณ 500,000 บาท ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการโปรโมตและขายสินค้า คาดว่าจะได้เงินทุนคืนใน 1-2 ปี แต่ก็มีปัญหาอุปสรรคบ้าง ในช่วงเริ่มการผลิต เนื่องจากจำนวนผลิตน้อย ทำให้ต้นทุนสูง และต้องทำการโปรโมตเพื่อให้เป็นที่รู้จัก



เตรียมขยายตลาดออนไลน์

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต หนุ่มน้อยรายนี้แจกแจงว่า จะพยายามเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีดีไซน์หลากหลายมากขึ้น พร้อมทั้งโปรโมตผ่านช่องทางอื่น เช่น เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม เพื่อสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคมากขึ้น

“ผมหวังว่าจะสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับผลิตภัณฑ์จากวัสดุพื้นบ้าน และสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน โดยปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือและร่วมงานกับกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของสับปะรด เนื่องจากมีพื้นที่ปลูกสับปะรดมากที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกมากที่สุดในประเทศอีกด้วย



นอกจากนี้ ผมยังคาดหวังว่า Ever leaves จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพสินค้าแปรรูปจากวัสดุธรรมชาติให้มีมูลค่าเพิ่มและมีความเป็นสากลมากขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และสามารถต่อยอดถ่ายทอดความรู้ไปสู่การพัฒนาส่วนอื่นๆ ต่อไป” น้องมัช กล่าว



ผู้ประกอบการหน้าใหม่รายนี้ยังให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากเข้ามาทำธุรกิจดังกล่าวว่า การแปรรูปเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ควรมองหาวัสดุเหลือใช้ที่สามารถเปลี่ยนให้เป็นวัสดุที่มีความโดดเด่น อาจจะเป็นเรื่องความสวยงามของ texture หรือคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ความคงทน และที่สำคัญ ควรทำการทดลองผลิตว่าสามารถทำผลิตภัณฑ์ได้จริง ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน

แหล่งที่มา : sentangsedtee
ขอบคุณบทความจาก https://www.item2day.com

นักศึกษา ปวส.2 รายได้เกือบ 20,000 ต่อเดือน จากการปลูกพริกกระสอบขาย ปลูกง่าย กำไรงาม

นักศึกษา ปวส.2 รายได้เกือบ 20,000 ต่อเดือน จากการปลูกพริกกระสอบขาย ปลูกง่าย กำไรงาม

เงินมันอยู่รอบตัวเราหากรู้จักวิธีการหา บทความนี้ก็เอาอีกหนึ่งผลงานการสร้างรายได้ระหว่างเรียนมาฝากกัน เป็นการทำเกษตรจาก นักศึกษา ปวส. ปี 2 โดยการ ปลูกพริกกระสอบ อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากขุดหลุม หรือสภาพดินไม่เหมาะสำหรับการทำเกษตรพริกกระสอบ เราก็สามารถปรุงดินในกระสอบได้เองเลย แล้วใช้กระสอบนั้นเป็นกระถาง จะเป็นอย่างไรมาติดตามพร้อมกันได้เลย



ทำไมต้องปลูกพริกในกระสอบ?
เจ้าของผลงานทำรายได้งามนี้คือ นายพิเชษ ด้วงชู เป็นนักศึกษา ปวส. ปี 2 ซึ่งก็ได้เรียนในสาขาพืชศาสตร์ ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง ด้วยความที่อยากจะหารายได้เสริมเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง จึงได้คิดว่าทำอย่างไรจึงจะหาเงินเพิ่มได้อีก



ไอเดียการปลูกพริกกระสอบก็ผุดขึ้นมาโดยการเข้าร่วมโครงานเกษตรเพื่อชีวิต เกษตรรุ่นใหม่ใส่ใจมาฐาน ของทางสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้เป็นคนจัดโครงการขึ้นร่วมกันกับทางวิทยาลัยเอง เพื่อให้เกษตรกรรุ่นใหม่ใส่ใจมาตรฐานการผลิตมากขึ้น



ด้วยความตั้งใจในการหารายได้เสริมบนที่ดินเพียง 1 งาน สามารถสร้างรายได้เกือบเดือนละ 20,000 บาท แบ่งเบาภาระช่วยพ่อแม่ไดเยอะ เงินจำนวนนี้ส่งตัวเองเรียนได้จนจบปริญญาตรีเลย แม้ว่าในการทดลองทำครั้งแรกจะเคยกำไรน้อยแต่เมื่อได้ลงมือจริงจังแล้วบนที่ดิน 1 งาน ได้เยอะกว่านั้นเมื่อเพิ่มจำนวนพริกกระสอบเป็น 200 กระสอบ




ระยะเวลาในการปลูกประมาณ 3 เดือน เก็บพริกได้ทุกอาทิตย์แล้วเอาไปขาย ราคาตลาดพริกกิโลกรัมละ 130 – 150 บาท ขึ้นอยู่กับราคาตลาดแต่ละช่วง โดยในแต่ละเดือนจะได้ประมาณ 120 กิโลกรัม เป็นเงินประมาณ 16,800 บาท ถือว่าเยอะมากสำหรับเงินเดือนของคนที่เป็นนักศึกษา



วิธีการปลูกพริกกระสอบ
1. หากระสอบตามจำนวนที่ต้องการมาได้เลย อยากจะปลูกกี่กระสอบก็เตรียมมาเท่านั้น

2. เอาดินร่วนปนทราย ปริมาณ 12 กิโลกรัมมาผสมเข้ากันกับมูลของวัว ปริมาณ 5 ขีด และปูนขาวอีก 1 กำมือ

3. จัดการผสมคลุกให้เข้ากัน

4. นำไปใส่ในกระสอบได้เลย

5. พับปากกระสอบลงให้สูงจากดินในนั้นประมาณ 5 นิ้ว เพื่อจะได้มีแนวกั้นลมพัด



6. เอาต้นกล้าพริกที่มีมาปลูกได้เลย อยากจะปลูกพริกชนิดไหนก็ตามแต่ละเลือกเลย แต่สำหรับของเขาอยู่พัทลุงพริกเดือยไก่เป็นที่ต้องการของตลาดเขาจึงเลือกปลูกชนิดนี้

7. ระยะเวลา 3 เดือน เก็บขายได้เลย

8. เมื่อต้นพริกหมดอายุแล้วก็ยกเอาดินในกระสอบเก่านั้นออกมาฆ่าเชื้อโดยการตากแดดและทำใหม่วนกันแบบเดิม



เป็นการหารายได้เสริมที่กลายเป็นรายได้หลักได้เลย ในการปลูกพริกกระสอบนี้แม้เวลาน้อยก็ทำได้ เป็นเกษตรกรยุคใหม่โดยแท้ต้องไม่ใช้สารเคมีอันตราย ต้องคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภคด้วย และท่านใดที่ต้องการจะหารายได้จากการทำเกษตรลองปลูกพริกกระสอบดูอาจจะสร้างรายได้งามมากก็ได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไทยรัฐ

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.naykhaotom.com

ก่อนนอนให้ตั้งใจ ทำวันละ 7 นาที ชีวิตเปลี่ยนจิตใจเป็นสุข


ในการที่ตั้งใจ ทำความดี ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีเหตุมีอุปสรรค มีเรื่องราว สารพัด จะขัดขวาง ไม่ให้ได้ทำ เมื่อไม่ได้ทำบุญ ก็ไม่เกิด เหมือนเป็นบททดสอบว่า เรามีความตั้งใจ จริง ๆ หรือเปล่า และ ความตั้งใจจริงที่เรามีนั้น เราตั้งใจจริงมาก หรือมากไม่พอ เพราะเมื่อความตั้งใจ ยังไม่พอ ก็อย่าหวังที่ ชีวิตเราจะเปลี่ยน ความตั้งใจ อย่างแรงกล้า ที่เรียกว่า ตา ยเป็นตา ย แต่สำหรับเรื่องง่ายอย่างนี้ เป็นพื้นฐาน ของการ มีชีวิตที่ดี ทำอย่างนี้ไม่เห็น มีใครตา ยไปสักคน ตั้งใจแบบนี้ไม่ต้อง เสียเงินทอง

คนเราเสียเวลาไปมาก สำหรับเรื่องที่ ไม่เป็นเรื่องตั้งเยอะ จะใช้เวลาแค่ 7 นาที ทุกวันก่อนนอน จะไม่ได้เชียวหรือ เพราะวิธีการนี้ แม่ชีรับรองว่าชีวิตของ โยมเปลี่ยน เปลี่ยนแบบพลิกชีวิตไป ในทางที่ดีขึ้น อย่างแน่นอน แม่ชีเอาชีวิต เป็นประกัน



สำรวมกาย วาจา กายใจ พนมมือรวบรวมจิต เปล่งเสียง ดัง ๆ ตั้งใจ อาราธนาศีล 5 และ สมาทานศีล 5

คำบูชาพระ

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยาม

คำนมัสการพ ระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

สะวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

คำอารา ธนาศีล 5

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ



ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ

คำนมัสการพ ระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ไตรสรณคมณ์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ



ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฎฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

คำแผ่เมตตา ให้แก่ตนเอง

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากทุกข์

อะหัง อเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากเวร อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากความลำบาก

อะหัง อะนีโฆ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากอุปสรรค สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ จงรักษาตนให้มีความสุขตลอดกาลนานเทอญ

คำแผ่เมตตา ให้แก่ผู้อื่น

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บตา ย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย



อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆ า โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิดอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

หลังจากนี้หากโยม จะทำสมาธิ ก็ให้สวดมนต์ บทไหนก็ได้ จะเป็น อิติปิโสฯ อิติสุขโตฯ ชินบัญชร หรือ บทไหนๆ ก็ตาม ก่อนนั่ง ให้ขอบุญบารมี ขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า และ ครูบาอาจารย์ ขอเพื่อให้นั่งได้ เข้าถึงสมาธิ โดยไว ไม่มีอะไรมา กวนใจ หรือทำให้ต้อง ถอนสมาธิโดยไว

สุดท้ายหากกรรมใดก็ดี ที่ข้าพเจ้าเคยมีกรรมต่อทรัพย์ ของแผ่นดิน คนของแผ่นดินทำผิด เป็นถูก ทำถูก เป็นผิด และกรรมใด ที่ข้าพเจ้าเคย สร้างกรรม กับผู้ใดไว้ ไม่ว่าอดีตชาติ หรือปัจจุบันชาติ ไม่ว่ามนุษย์ และสัตว์ ข้าพเจ้าขอให้ท่านทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าเคยสร้างเวร สร้างกรรม ต่อท่าน จงได้รับอานิสงส์ผลบุญ ของข้าพเจ้า เมื่อได้รับผลบุญ ของข้าพเจ้าแล้ว จงปลด ปล่อยกรรม ปลดเปลื้องกรรม งดเว้นการจองเวร และ ขอดวงจิตที่เกิดในภพนี้ ชาตินี้ได้ หลุดพ้นจากความทุกข์ ทั้งปวง ด้วยกุศล ในคราวครั้งนี้ ด้วยเทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ สาธุ

อย่าลืมช่วยเผยแผ่ธรรมะ เพื่อเป็นธรรมทานกันนะคะ

ขอขอบคุณที่มา จาก : bangpunsara.com

เวลาทำบุญ ต้องอธิษฐานแบบนี้ จึงจะดีต่อเราและครอบครัว


เวลาทำบุญ ต้องอธิษฐานแบบนี้ จึงจะดีต่อเราและครอบครัว
ในประเทศไทยของเรานั้น มีจุดเด่นและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีผู้คนสนใจกันเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สิ่งหนึ่งเมื่อเราเข้าวัดทำบุญ นั้นคือ การขอพร



การขอพรอธิษฐานให้ชีวิตมีแต่ส่งที่ดี การเงิน การงาน ความรัก แต่ความเป็นจริงแล้ว การการทำบุญและขอพรนั้น เราจะต้องอธิษฐานแบบไหนถึงจะดีกับตัวของเรามากที่สุด มีดังนี้



คำอธิษฐานเวลาทำบุญ

หลายๆ คนคงหันหน้าเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจกัน คุณรู้ไหมว่า อธิษฐานแบบไหนถึงจะส่งผลดีกับตัวเรา มาดูกันค่ะ คำอธิษฐานเวลาทำบุญ ขอบุญจาก ธรรมทาน , สังฆทาน , วิหารทาน นี้จงถึงแก่ เจ้ากรร มนายเ วร และผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัวที่มีมาถึงตัวทุกภพทุกภูมิ



ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน หากไม่ถึงเพียงใด ขอให้คำว่าไม่มีไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฎแก่ข้าพเจ้า



ขอให้เกิดในภพภูมิเขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ลึกซึ้งตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ ขอท่านพระยมราชจงเป็นสักขีพย านในการบำเพ็ญบุญของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ


องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ว่า การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง เพื่อลดวิบากกรร มให้ลดลงอโหสิกรร มก่อนแล้วแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลเป็นหลักใหญ่ เพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ขอให้ท่านทำตามนี้แล้วชีวิตจะพ้นวิบาก ไปถึงรุ่งเรือง ร่ำรวย ครอบครัว หมดโรคภัย จนถึงชีวิตรักเป็นสุข


ขอบคุณแหล่งที่มา bangpunsara