วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เตาแกลบใช้แทนเตาแก็ส ประหยัดค่าใช้จ่ายอย่าลืมนำไปทดลองทำกันได้นะคะ

ปัจจุบันนี้ ด้วยราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ต่างๆที่อำนวยความสะดวกภายในบ้านมีราคาที่แพงขึ้นในทุกๆวัน และผู้คนก็ติดความสะดวกสบายกันมานาน เพราะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยในการทำงานบ้าน ทำอาหารด้วยแก๊ส แต่รู้ไหมว่า ถ้าเรารู้จักหาแนวคิดในการช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้าน สามารถทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆได้เยอะ อย่างเช่น ใช้เตาที่ทำเองแทนการใช้แก๊ส ลดค่าแก๊สในแต่ละเดือนได้มากเลยทีเดียว และวันนี้เราก็มีไอเดียดีๆมฝากกัน ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
อุปกรณ์ที่ต้องจัดเตรียม
ฟิน (ตัดให้เป็นชิ้นเล็กหน่อย จะได้ติดไฟได้ง่าย)
ปี๊บ ( แนะนำให้เอาปี๊บเหลือใช้ในบ้าน )
ฐานรองสำหรับวางหม้อหรือกระทะ (สามารถหาซื้อตามตลาดในราคา 50 บาท)
ท่อ PVC หรือเลือกใช้เป็นไม้ไผ่แทนก็ได้ เพื่อช่วยประดับงบ
แกลบ (เอามาจากที่เหลือจากการสีข้าว)
ขั้นตอนวิธีการทำเตาไฟความร้อนสูง
ขั้นตอนที่ 1 ทำการเจาะฐานปี๊บ ให้เป็นรูเท่ากับขนาดท่อ PVC ที่ได้เตรียมไว้
ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นนำท่อ PVC ไปใส่ตรงกลางปี๊บ แล้วก็เทแกลบตามลงไปจนเต็มปี๊บ
ขั้นตอนที่ 3 แล้วทำการกดอัดแกลบให้แน่นที่สุด (ยิ่งแน่นเท่าไร ยิ่งมีประสิทธิภาพดี เพราะความร้อนที่ได้รับ จะยิ่งสูงขึ้นตามความหนาแน่นของแกลบ)
ขั้นตอนที่ 4 ต่อมาก็นำท่อ PVC ออก ( ให้ค่อยๆหมุน แล้วบิดไปทางซ้ายขวา เพื่อไม่ให้แกลบ ที่ได้อัดไว้ในขั้นตอนที่ 3 นั้นเสียรูป) พอเอาออกได้แล้ว จะเห็นได้ว่าในปี๊บนั้น แกลบจะมีปล่องตรงกลางไว้สำหรับเป็นช่องทางให้อากาศผ่าน และช่วยให้การเผาไหม้นั้นดีขึ้นอีกด้วย)
ขั้นตอนที่ 5 จากนั้นให้นำหินมาวางไว้เป็นฐานรองปี๊บ เพื่อเป็นการยกให้ฐานปี๊บสูงกว่าเดิม ให้เป็นช่องทางลมสามารถให้อากาศผ่านด้านล่างได้ดี
ขั้นตอนที่ 6 แล้วทำการจุดไฟ โดยการใช้เศษกระดาษ และด้วยที่แกลบเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย ทำให้เรามองเห็นเปลวไฟพุ่งขึ้นมาทางปล่องตรงกลางปี๊บได้อย่างรวดเร็ว
ขั้นตอนที่ 7 จากนั้นนำฐานรองหม้อที่ได้จัดเตรียมเอาไว้มาวางรอง แล้วค่อยๆเติมเศษไม้ที่ได้เตรียมไว้ใส่เข้าไปเรื่อยๆ เพื่อให้ไฟติดและแรงขึ้น
เป็นไงบ้างคะ กับรูปแบบการทำเตาไฟความร้อนสูง จากแบบทดลองจริงกันไปแล้ว สามารถทำให้เราประหยัดค่าแก๊สไปเยอะเลยทีเดียว และยังทำเวลาได้รวดเร็วมากกว่าแก๊สอีกด้วย สำหรับในการทำอาหาร หรือทำอย่างอื่น หากใครที่สนใจ อย่าลืมนำไปทดลองทำกันได้นะคะ
ขอบคุณข้อมูล : Sivakorn Channel
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://news-amazing.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น